วันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

สพม.19 ปลื้มกิจกรรม “รักใครให้อ่านเลย...” ช่วยยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน “ร.ร.ยางหล่อวิทยาคาร”





...พลังแห่งความมุ่งมั่นตั้งใจและแรงปรารถนาดีที่มีต่อผู้อื่นด้วยศรัทธาและความเชื่อที่มีต่อหลักการแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้แก่กัน เป็นการให้ที่มีคุณค่าที่ผู้รับไม่สามารถปฏิเสธได้ เนื่องจากการกล่าวถ้อยคำเพียงสั้น ๆ แต่กินใจ เช่นว่า... “อยากให้อ่านหนังสือเรื่องนี้.......จังเลย”   “ อ่านให้หน่อยนะ  รักนะจึงให้อ่าน  “ครูอยากให้หนู...อ่านเรื่อง........จังเลย”  “อ่านให้ครูหน่อยนะจ๊ะ พรุ่งนี้เรามาคุยเรื่องนี้...กันนะจ๊ะ

จากความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้กันจะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ในการจุดประกายแห่งการอ่านและพัฒนาไปสู่คุณลักษณะแห่งนิสัยรักการอ่านให้เกิดขึ้นได้อย่างมหัศจรรย์ คือจุดเริ่มต้นของกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน รักใครให้อ่านเลย... อาเซียน” ของโรงเรียนยางหล่อวิทยาคาร ต.ยางหล่อ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู  สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพม.) เขต 19 (เลย-หนองบัวลำภู) โรงเรียนที่ได้รับเลือกให้เป็นโรงเรียน ห้องสมุดมีชีวิตต้นแบบ สพฐ. รุ่นที่ 6 ประจำปี 2556



นางปดิวรัดดา ศรีบุรินทร์ ครูบรรณารักษ์  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนยางหล่อวิทยาคาร  สพม.19 กล่าวว่า กิจกรรม  “รักใครให้อ่านเลย...อาเซียน”  เป็นกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านด้วยการสร้างเครือข่าย เพื่อกระตุ้นและ ส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและเตรียมความพร้อมในการทดสอบระดับชาติ ( O-NET)  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  3  วิชาภาษาไทย    และเป็นการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เกี่ยวกับเรื่องอาเซียน และส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน สำหรับ ผู้บริหารโรงเรียน  ครูผู้สอน และผู้สนใจ ซึ่งมีครูบรรณารักษ์และครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยเป็นหลักในการดำเนินกิจกรรม
 


โดยแนวคิดการจัดกิจกรรม รักใครให้อ่านเลย...อาเซียน เริ่มต้นเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2556 โดยมี ดร.วิมล  ปานะถึก อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนยางหล่อวิทยาคา ร เป็นผู้ริเริ่ม และมีการสานต่อกิจกรรมโดยนายธารา พิลาแสง ผู้อำนวยการโรงเรียนคนปัจจุบัน  โดยในช่วงปีแรกหนังสือที่เลือกนำมาสร้างเครือข่ายรักการอ่านเป็นหนังสืออะไรก็ได้ที่ชอบอ่านและอยากจะส่งต่อให้ผู้อื่นได้อ่านด้วย และเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปลายปี  2558 หนังสือที่เลือกจึงให้เป็นหนังสือเกี่ยวกับประเทศอาเซียน

“การส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ด้วยการสร้างเครือข่าย “รักใครให้อ่านเลย...อาเซียน” ปัจจุบันเป็นปีที่ 5  ที่ได้กิจกรรมและประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง  ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่มีคุณค่าเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง  เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่มีความง่ายต่อการดำเนินการ ไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยากสลับซับซ้อน สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องอาศัยงบประมาณ  เนื่องจากใช้หนังสือที่มีอยู่แล้วในห้องสมุด ไม่กระทบต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนปกติ  เกิดความสุขเมื่อได้ทำ  และยังเป็นการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้ทุกคนได้เป็นอย่างดี”

นางปดิวรัดดา กล่าวอีกว่า รูปแบบในการสร้างและขยายเครือข่ายมี 2 รูปแบบ คือ รูปแบบจากแม่ข่ายลงสู่เครือข่ายด้วยระบบส่งต่อ (Forward system) โดยเริ่มต้นจากแม่ข่ายส่งต่อไปยังเครือข่าย เมื่อเครือข่ายอ่านแล้วก็จะส่งต่อไปยังเครือข่ายคนต่อ ๆ ไป เป็นระบบลูกโซ่  และรูปแบบจากแม่ข่ายลงสู่เครือข่ายด้วยระบบส่งกลับ (Backward  system) โดยเริ่มต้นจากแม่ข่ายส่งต่อไปยังเครือข่าย เมื่อเครือข่ายอ่านแล้วก็จะส่งกลับไปยังแม่ข่าย และแม่ข่ายก็จะส่งต่อให้เครือข่ายคนต่อไป เมื่อเครือข่ายคนต่อไปอ่านแล้วก็จะส่งกลับมายังแม่ข่าย ทำเช่นนี้ต่อเนื่องไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และเครือข่ายคนอื่น ๆ ก็จะพัฒนาเป็นแม่ข่ายส่งให้เครือข่าย อย่างมีระบบ



นายจิรวัฒน์  เข็มทอง  นักเรียนชั้น ม.6/ เป็นนักเรียนรุ่นแรกที่ทำกิจกรรมรักใครให้อ่านเลย  กล่าวว่า  ตนเองเป็นยุวบรรณารักษ์ของห้องสมุดตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.1 และมีโอกาสได้ช่วยครูบรรณารักษ์ทำกิจกรรมต่างๆ ของห้องสมุดอยู่เสมอ เป็นคนชอบอ่านหนังสือ  เห็นว่ากิจกรรมรักใครให้อ่านเลยเป็นกิจกรรมบูรณาการให้เข้ากับการจัดการเรียนรู้ของทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและหลากหลาย   เป็นอย่างดี



น.ส.วิภาวดี นาคขุนทด นักเรียนชั้น ม.6/1 เป็นนักเรียนที่เคยไปชนะเลิศการประกวดแข่งขันกิจกรรมยุวบรรณารักษ์ส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และได้รับรางวัลระดับเหรียญเงิน ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 66 ที่จังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ตนเองชอบเข้าห้องสมุดและอ่านหนังสืออยู่เสมอ  ตั้งแต่มีกิจกรรมรักใครให้อ่านเลย ทำให้ตนเองมีความสุขและสนุกในการสร้างเครือข่ายรักการอ่านมาก  นำไปต่อยอดให้คนในครอบครัวได้เรียนรู้เรื่องภาษาอาเซียน  ช่วยสร้างสานความสัมพันธ์อันดีทำให้ทุกคนรักกัน และมีความสุขในการอ่านและเรียนรู้ไปในตัวอีกด้วย และอยากจะให้คโรงเรียนดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ ตลอดไป



นายธารา พิลาแสง ผู้อำนวยการโรงเรียนยางหล่อวิทยาคาร  กล่าวว่า  ผลจากการดำเนินกิจกรรม รักใครให้อ่านเลย...อาเซียน  ปีที่ 5 ถือว่าประสบความสำเร็จสูงสุด มีตัวชี้วัดถึงคุณภาพของการจัดการศึกษาเป็นอย่าดี  คือ นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่  1-3  มีความสามารถอ่านคล่อง  เขียนคล่อง ได้ร้อยละ  80  และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  3  มีผลการ ทดสอบระดับชาติ ( O-NET)  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย (  ปี 2557  เฉลี่ย 32.12   ปี 2558  เฉลี่ย 40.98  ) โดยปี  2558 เพิ่มขึ้น 8.86 และปี 2559 (ปี 2558  เฉลี่ย 40.98  ปี 2559  เฉลี่ย 48.44) เพิ่มขึ้น 7.46  ซึ่งถือว่าเป็นที่น่าพอใจและถือเป็นค่าคะแนนในการพัฒนานักเรียนให้มีคะแนนสูงขึ้นในทุกปี
……………………………………………….
กฤตภาส ดวงไพชุม
นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ สพม.19 /รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น