โรงเรียนยางหล่อวิทยาคาร สพม.19 จัดกิจกรรม “ออนซอนงานศิลป์ ท้องถิ่นอีสาน”

เมื่อเร็วๆ นี้ โรงเรียนยางหล่อวิทยาคาร อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 (เลย – หนองบัวลำภู) โดยกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ จัดโครงการ “ออนซอนงานศิลป์ ท้องถิ่นอีสาน” เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับงานศิลปะแขนงทัศนศิลป์และแสดงออกทางด้านศิลปะแขนงนาฏศิลป์ ได้อย่างเหมาะสม โดยมี ดร.ประสงค์ เอี่ยมเวียง รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 เป็นประธานพิธีเปิด นายธารา พิลาแสง ผู้อำนวยการโรงเรียน ครู นักเรียนให้การต้อนรับ

นายราชันย์  จันทรลักษณ์  หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมว่า เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน ได้เรียนรู้เกี่ยวกับงานศิลปะแขนงทัศนศิลป์และแสดงออกทางด้านศิลปะแขนงนาฏศิลป์ ได้อย่างเหมาะสม  เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้ ซาบซึ้งงานศิลปะ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้  เพื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมด้าน ต่างๆ  ตลอดจนวิถีชีวิตของคนในภาคอีสาน โดยการจัดการแสดงทางนาฏศิลป์  และนิทรรศการศิลปะ และเพื่อส่งเสริมให้นักเรียนที่สนใจด้านศิลปะมีเวทีในการแสดงออก ใช้เวลาว่างสร้างสรรค์งานศิลปะ ได้อย่างอิสระและเหมาะสม กับศักยภาพของตนเอง

  

นายราชันย์  กล่าวต่อว่า มีนักเรียนเข้าร่วมโครงการทั้งหมด จำนวนกว่า 500 คน  โดยมีการแสดงของนักเรียน ชั้น ม.ต้น จำนวน  6 ชุดการแสดง จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เทคนิคและแนวคิดในการสร้างสรรค์งานจากวิทยากรมืออาชีพด้านศิลปะและการแสดง และจัดนิทรรศการแสดงผลงานภาพวาดของครูและนักเรียนชั้น ม. 2

........................................................

ขอบคุณข้อมูล-ภาพประกอบ จาก...

ครูประเสริฐบุญญา หลักหาญ เครือข่ายประชาสัมพันธ์โรงเรียนยางหล่อวิทยาคาร สพม.19

โรงเรียนเชียงคาน อนุรักษ์วัฒนธรรม “รำเบิ่งโขง”

อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย เป็นเมืองที่งดงามด้วยวัฒนธรรม วิถีชีวิตที่เรียบง่ายงดงาม โดยเฉพาะวัฒนธรรมการดำเนินชีวิตริมฝั่งแม่น้ำโขง นอกจากแม่น้ำโขงจะหล่อเลี้ยงผู้คนแล้ว สมัยก่อนชาวเชียงคาน เมื่อเสร็จจากภารกิจทำนาทำไร่ ก็มักจะอาบน้ำที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ตักน้ำโขงมาใช้อุปโภคบริโภค และเป็นสถานที่บ่มเพาะความรัก ความสามัคคีในชุมชน จึงเกิดเพลง “เบิ่งน้ำโขง” ขึ้น โดยไม่ปรากฏนามผู้แต่งคำร้องและทำนอง เพลงเบิ่งโขงสะท้อนให้เห็นภาพวิถีชีวิตของคนเชียงคาน เป็นเพลงที่ร้องสืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนาน ความงดงามทางวัฒนธรรมการร้องรำ การฟ้อน ซึ่งเป็นสุนทรียะที่งดงามยิ่งนัก

และเพื่อเป็นการสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมดังกล่าว โรงเรียนเชียงคาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 (เลย – หนองบัวลำภู) จึงเกิดแนวคิดโดยครูสง่า พิลาทา หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ - นาฏศิลป์ และดร.สุเมธ ปานะถึก ผู้อำนวยการโรงเรียนเชียงคาน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากดร.อดิศักดิ์ มุ่งชู ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 จัดกิจกรรม “เมืองเชียงคาน สืบสานวัฒนธรรม รำเบิ่งโขง” ให้เป็นกิจวัตรหน้าเสาธงโดยการรำ 2 เพลงคือ เพลง “รำชายฝั่งโขง” และ “รำเบิ่งโขง” หลังเคารพธงชาติเป็นประจำทุกเช้า ที่นอกเหนือจากกิจวัตรประจำวันอื่นๆ เช่น การกล่าวค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ การแสดงความรักด้วยการไหว้พี่กับน้อง เป็นต้น

เพื่อให้ครูและนักเรียนได้ร่วมกันสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี แสดงให้เห็นอัตลักษณ์ของโรงเรียนเชียงคาน และชาวเชียงคาน แสดงความรักและหวงแหน ภาคภูมิใจในความสำนึกรักบ้านเกิดของตนเอง

นอกจากนี้โรงเรียนเชียงคานยังได้ร่วมกับอำเภอเชียงคาน เทศบาลเชียงคาน และสาวงามร้อยปีเมืองเชียงคานจาก11 คุ้มวัด จำนวนกว่า 2,000 คนจัดกิจกรรม “เมืองเชียงคาน สืบสานวัฒนธรรม รำเบิ่งโขง” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่บริเวณลานวัฒนธรรม ริมฝั่งแม่น้ำโขง อำเภอเชียงคาน โดยมีนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธาน เมื่อเร็วๆ นี้

.....................................................

กฤตภาส ดวงไพชุม

กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ สพม.19/รายงาน

อุทัย ไชยโชค

เครือข่ายประชาสัมพันธ์โรงเรียนเชียงคาน /ข้อมูล-ภาพ

สกู๊ปพิเศษ : “โรงเรียนเชียงคาน” ปลูกฝั่งนักเรียนอนุรักษ์วัฒนธรรม “รำเบิ่งโขง” ทุกเช้าหลังเคารพธงชาติ

อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย เป็นเมืองที่งดงามด้วยวัฒนธรรม  วิถีชีวิตที่เรียบง่ายงดงาม  โดยเฉพาะวัฒนธรรมการดำเนินชีวิตริมฝั่งแม่น้ำโขง  นอกจากแม่น้ำโขงจะหล่อเลี้ยงผู้คนแล้ว  สมัยก่อนชาวเชียงคาน  เมื่อเสร็จจากภารกิจทำนาทำไร่  ก็มักจะอาบน้ำที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง  ตักน้ำโขงมาใช้อุปโภคบริโภค  และเป็นสถานที่บ่มเพาะความรัก  ความสามัคคีในชุมชน  จึงเกิดเพลง “เบิ่งน้ำโขง” ขึ้น  โดยไม่ปรากฏนามผู้แต่งคำร้องและทำนอง เพลงเบิ่งโขงสะท้อนให้เห็นภาพวิถีชีวิตของคนเชียงคาน  เป็นเพลงที่ร้องสืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนาน   ความงดงามทางวัฒนธรรมการร้องรำ  การฟ้อน  ซึ่งเป็นสุนทรียะที่งดงามยิ่งนัก 

และเพื่อเป็นการสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมดังกล่าว โรงเรียนเชียงคาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 จังหวัดเลยและหนองบัวลำภู จึงเกิดแนวคิดโดยครูสง่า พิลาทา หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ - นาฏศิลป์  และดร.สุเมธ ปานะถึก ผู้อำนวยการโรงเรียนเชียงคาน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากดร.อดิศักดิ์ มุ่งชู ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19  จัดกิจกรรม  “เมืองเชียงคาน สืบสานวัฒนธรรม รำเบิ่งโขง” ให้เป็นกิจวัตรหน้าเสาธงโดยการรำ 2 เพลงคือ เพลง “รำชายฝั่งโขง” และ “รำเบิ่งโขง”  หลังเคารพธงชาติเป็นประจำทุกเช้า เพื่อให้นักเรียนได้ร่วมกันสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี  แสดงให้เห็นอัตลักษณ์ของโรงเรียนเชียงคาน และชาวเชียงคาน  แสดงความรักและหวงแหน  ภาคภูมิใจในความสำนึกรักบ้านเกิดของตนเอง

นอกจากนี้โรงเรียนเชียงคานยังได้ร่วมกับอำเภอเชียงคาน  เทศบาลเชียงคาน  และสาวงามร้อยปีเมืองเชียงคานจาก11 คุ้มวัด จำนวนกว่า 2,000 คนจัดกิจกรรม “เมืองเชียงคาน สืบสานวัฒนธรรม รำเบิ่งโขง” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยมีนายวิโรจน์  จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธาน เมื่อเร็วๆ นี้

.....................................................

กฤตภาส ดวงไพชุม

กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ สพม.19/รายงาน

ขอบคุณข้อมูล-ภาพจาก  ครูอุทัย ไชยโชค เครือข่ายประชาสัมพันธ์โรงเรียนเชียงคาน สพม.19

               

สพม.19 จัดตำรวจป้องปรามนักเรียนทะเลาะวิวาทวันสอบโอเน็ตได้ผล

เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 ดร.อดิศักดิ์ มุ่งชู ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 เปิดเผยว่า ตามที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) กำหนดให้ สพม.19 ดำเนินการจัดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ชั้น ม. 3 ระหว่างวันที่ 27 – 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่าทุกสนามสอบดำเนินการสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ดร.อดิศักดิ์  กล่าวอีกว่า นอกเหนือจากการกำชับให้คณะกรรมการควบคุมการสอบได้ปฏิบัติตามแนวปฏิบัติที่ สทศ.กำหนดมาอย่างเคร่งครัดแล้วนั้น ทาง สพม.19 ยังคงห่วงใยในเรื่องของการมีเหตุวุ่นวายในช่วงการสอบ โดยเฉพาะเหตุทะเลาะวิวาทของนักเรียนระหว่างโรงเรียน เนื่องจากนักเรียนอยู่ในช่วงวัยรุ่น และแต่ละสนามสอบจะมีนักเรียนโรงเรียนต่างๆ มาสอบรวมกัน จึงขอความร่วมมือจากสถานีตำรวจในพื้นที่ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาประจำการที่สนามสอบๆ ละ 2 นายเพื่อป้องกันเหตุดังกล่าว ซึ่งได้ผลเป็นอย่างดี ไม่มีรายงานการทะเลาะวิวาทของนักเรียนเข้ามา

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Line ราชการ สพม.19

“ดร.อดิศักดิ์” กำชับข้อห้าม “กรรมการคุมสอบ” โอเน็ต สพม.19 ให้ปฏิบัติเคร่งครัด

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 ดร.อดิศักดิ์ มุ่งชู ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 เปิดเผยว่า ตามที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ) กำหนดให้มีการจัดสอบทางกรศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างวันที่ 27 – 28 กุมภาพันธ์ 2559 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 ได้ดำเนินการแต่งตั้งกรรมการคุมสอบสลับอำเภอหมุนเวียนกัน และได้ทำความเข้าใจในแนวปฏิบัติการดำเนินการสอบร่วมกับหัวหน้าศูนย์สอบ หัวหน้าสนามสอบ กรรมการคุมสอบ กรรมการสังเกตการณ์สอบ ทุกคนของทุกสนามสอบแล้ว

ดร.อดิศักดิ์ มุ่งชู กล่าวต่อว่า สพม.19 ได้แบ่งศูนย์สอบออกเป็น 5 ศูนย์ 20 สนามสอบ คือ 1. ศูนย์สอบ สพม.19 รับผิดชอบสนามสอบโรงเรียนเลยพิทยาคม โรงเรียนนาด้วงวิทยา โรงเรียนท่าลี่วิทยา 2. ศูนย์สอบโรงเรียนเซไลวิทยาคม รับผิดชอบสนามสอบโรงเรียนศรีสงครามวิทยา โรงเรียนผาอินทร์แปลงวิทยา โรงเรียนหนองหินวิทยาคม โรงเรียนภูกระดึงวิทยาคม โรงเรียนสันติวิทยาสรรพ์ โรงเรียนภูกระดึงวิทยา 3. ศูนย์สอบโรงเรียนวังโพนงามวิทยา รับผิดชอบสนามสอบโรงเรียนศรีสองรักษ์วิทยา โรงเรียนนาแห้ววิทยา โรงเรียนภูเรือวิทยา 4. ศูนย์สอบโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย เลย รับผิดชอบสนามสอบโรงเรียนเชียงคาน โรงเรียนปากชมวิทยา และ 5. ศูนย์สอบศูนย์ประสานงาน สพม.19 หนองบัวลำภู รับผิดชอบสนามสอบโรงเรียนหนองบัวพิทยาคาร โรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร โรงเรียนโนนสังวิทยาคาร โรงเรียนคำแสนวิทยาสรรค์ โรงเรียนนาวังศึกษาวิช โรงเรียนสุวรรณคูหาพิทยาสรรค์

“อยากจะเน้นขั้นตอนการปฏิบัติของกรรมการคุมสอบในระหว่างการสอบ ให้ปฏิบัติโดยเคร่งครัด คือ ห้ามกรรมการคุมสอบแก้ไขแบบทดสอบหรือคำอธิบายใด ๆ เพิ่มเติมจากคำชี้แจงในแบบทดสอบ ห้ามผู้เข้าสอบและกรรมการคุมสอบนำแบบทดสอบและกระดาษคำตอบออกไปจากห้องสอบ ห้ามผู้เข้าสอบและกรรมการคุมสอบจดบันทึกข้อความใดๆ ออกจากห้องสอบเป็นอันขาด ห้ามกรรมการคุมสอบทำสำเนาแบบทดสอบด้วยวิธีการถ่ายภาพ ถ่ายเอกสารและวิธีอื่นๆ โดยเด็ดขาด ห้ามกรรมการคุมสอบใช้โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์สื่อสาร และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด” ผอ.สพม.19 กล่าว